Blog

Explore our style suggestions, thoroughly detailed gem and jewelry info, as well as numerous articles to entertain and inspire!

ไข่มุก อัญมณีอันเลอค่าแห่งท้องทะเล (Pearls, precious jewels of the sea)

Blog / 31.07.2016

ปัจจุบันเครื่องประดับมุกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ไข่มุกจัดเป็นเครื่องประดับที่สวยงามดูเรียบง่าย อ่อนหวาน คลาสลิคในแบบผู้หญิง แต่ด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไป เหล่าดีไซน์เนอร์ได้ออกแบบเครื่องประดับมุกให้เข้ากับยุคสมัย มีสีสันและรูปร่างของมุกที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งไข่มุกสีขาวนั้นเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศและความมีอุดมคติ ส่วนไข่มุกสีดำเป็นตัวแทนของผู้มีปรัชญา และไข่มุกสีชมพูเป็นตัวแทนของความสวยงาม ซึ่งไข่มุกที่นำเอามาทำเครื่องประดับนั้นมีหลายประเภท เรามาเริ่มทำความรู้จักไข่มุกกันเลยค่ะ

ไข่มุกอะโกย่า (Akoya pearl ) หรือที่นิยมเรียกว่า มุกญี่ปุ่นนั้น เป็นไข่มุกที่เกิดจากหอย Pinctada Fucata (พิงทาดา-ฟูคาตา) เนื่องจากตัวหอยมีขนาดเล็ก จึงผลิตไข่มุกที่มีขนาด 2 มม. – ไม่เกิน 10 มม. นอกจากนั้นไข่มุกอะโกย่ายังได้รับการยกย่องให้เป็นไข่มุกที่มีความเงา แวววาวมากที่สุด แหล่งผลิตหลักของโลก คือ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมี เกาหลี จีน ฮ่องกง และไทย

ไข่มุกเซาท์ซี (South Sea Pearl) หรือไข่มุกเลี้ยงน้ำเค็ม เป็นไข่มุกที่เกิดจากหอย Pinctada Maxima (พิงทาดา-แมกซิมา ) เป็นหอยที่มีขอบในและขอบเปลือกหอยเป็นสีเงินและสีทอง ไข่มุกเซาท์ซี มีหลายสี เช่น สีขาว ขาวอมชมพู ขาวอมทอง และสีทอง ผิวมุกจะหนาและมีขนาดใหญ่ประมาณ 10 ม.ม ส่วนเรื่องราคา ไข่มุกเซาท์ซีราคาค่อนข้างสูงเพราะเป็นมุกที่มีความเนียนละเอียดของเนื้อแบบมุกน้ำจืดและยังมีมีความเงาและแวววาวอย่างมุกอะโกย่า ยิ่งไปกว่านั้นหอยหนึ่งตัวสามารถผลิตมุกได้ครั้งละ 1 เม็ด ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้างมุกของหอยและหาได้ยากตามธรรมชาติ แหล่งผลิตที่เราจะพบคือ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย

ไข่มุกดำ (Black Pearl) หรือ มุกตาฮิติ (Tahitian Pearl) เป็นมุกที่มีความสวยงามและมีสีสันที่พิเศษ เกิดจากหอย Pinctada – argaritifera ( พิงทาดา มาการิติเฟอรา ) ไข่มุกดำจะมีขนาดใหญ่กว่า Akoya Pearl แต่เล็กกว่า South Sea Pearl มีขนาด 10 ม.ม จนถึงขนาด 20 ม.ม ผิวของชั้นมุกหนา วาว เงา มีรูปร่างกลม หยดน้ำ อาจขุระขระนูนออกมา โดยจะมีโทนสีเข้ม ดำ เทา หรือเหลือบสีอื่น เช่น เขียว ชมพู และแดง เป็นหลายสี ซึ่งสีสันที่แปลกแตกต่างทำให้ไข่มุกสีดำหรือมุกตาฮิติมีราคาสูง แหล่งผลิตหลักจะอยู่ที่หมู่เกาะตาฮิติ

ไข่มุกเลี้ยงน้ำจืด (Freshwater Pearl) ในอดีตไข่มุกชนิดนี้เกิดจากการสร้างเนื้อเยื่อจากหอยมุกเอง (Mantle tissue) ส่วนใหญ่จะได้มุกที่มีขนาดเล็กกว่าไข่มุกน้ำเค็ม รูปร่างไม่กลมเท่าที่ควรไปจนถึงบิดเบี้ยวเล็กน้อย (Semi - Baroque) ความแวววาวที่มีก็จะน้อยกว่ามุกน้ำเค็ม จึงทำให้หอยมุกน้ำจืดมีราคาที่ถูกกว่า โดยปกติไข่มุกจะมีขนาด 2 – 13 มิลลิเมตร มีสีที่หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็น ขาว ครีม ส้ม ชมพู หรือม่วง แต่สีส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในโทนอ่อนโดยจะขึ้นอยู่กับชนิดของหอยมุก น้ำ และสภาวะแวดล้อมในบริเวณที่มุกอาศัย แหล่งผลิตหลักของโลกคือ ประเทศจีน (ถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก) แหล่งอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย โดยสามารถพบได้ตามบริเวณแหล่งน้ำจืดทั่วไป

หลังจากที่เรารู้ประเภทต่างๆ ของไข่มุกแล้วอีกอย่างที่สำคัญ คือ การดูแลรักษาเครื่องประดับมุก

มุกที่คุณสวมใส่นั้นต้องให้ความทะนุถนอมดูแลเป็นพิเศษมากกว่าเครื่องประดับพลอยชนิดอื่น เพราะมุกเป็นอัญมณีที่เป็นอินทรีย์สาร มีความบอบบางและชำรุดได้ง่าย และสิ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้ คือ ไม่ควรสวมมุกก่อนการแต่งหน้าหรือฉีดน้ำหอม ควรแยกเก็บเครื่องประดับมุกไม่ให้ปะปนกับเครื่องประดับชนิดอื่นๆ ส่วนเรื่องวิธีทำความสะอาด แค่เช็ดด้วยผ้านิ่มๆ ที่ไม่มีขน โดยอาจเป็นผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็ได้หรือถ้าใช้ผ้าชุบน้ำควรผึ่งเครื่องประดับให้แห้งก่อนเก็บ เพื่อรักษาให้เครื่องประดับของคุณสวยและดูใหม่ตลอดเวลา

และนอกจากที่ไข่มุกจะเป็นเครื่องประดับแล้ว ดีไซร์เนอร์ในปัจจุบันได้นำไข่มุกมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบหรือนำไปตกแต่งชิ้นงานต่างๆ ออกมา ในแบบสไตล์เรียบหรู ดูดีมีระดับอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับมุกคุณภาพชั้นดี สามารถมาเลือกชมกันได้ที่ ศูนย์การค้าจิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์ สีลม ซ.19 ศูนย์การค้าเครื่องประดับและอัญมณีครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน

FB : Jewelry Trade Center
Line : @jtcthailand
Website : www.jewelrytradecenter.com

<- Back to: Blog